10 เด็กอัจฉริยะ "ฉลาดที่สุดในโลก" - Tonodthong บล๊อกคนบ้า

Latest

วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

10 เด็กอัจฉริยะ "ฉลาดที่สุดในโลก"




Pic_342765







"ความฉลาดและอัจฉริยภาพ" นั้น อาจประเมินได้ด้วยดัชนีชี้วัดหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระดับไอคิว สติปัญญา ผลการเรียน ความสามารถทางคณิตศาสตร์ รวมทั้งทักษะในการแก้ปัญหา แต่สิ่งหนึ่งที่บรรดา “ 10 เด็กอัจฉริยะ” จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ Business Insider.com มีร่วมกัน นอกเหนือจากความฉลาดหลักแหลมแล้ว คือการใช้สติปัญญาที่มีอยู่ สร้างคุณประโยชน์แก่มวลมนุษย์โลกและประเทศชาติของตน

1. Phoebe Cai–15 ปี–สหรัฐอเมริกา

เยาวชน มัธยมต้นคนนี้ ถูกเชิญให้อยู่ในทีมวิเคราะห์ข้อมูลด้านการวิจัยประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียเรียบร้อยแล้ว ในตำแหน่งผู้ช่วยการวิจัย

ปี ที่ผ่านมาเธอคว้า 8 รางวัลจากการแข่งขันวัดความสามารถทางคณิตศาสตร์เยาวชนหญิงจากสถาบัน เทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเสตต์ (MIT) คว้า 2 รางวัลในการแข่งขันคณิตศาสตร์มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน นอกเหนือจากการเป็นตัวแทนทีมสหรัฐฯในการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกโลก

เป้าหมายต่อไปของเธอคือการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย สาขาวิทยาศาสตร์
2. Dylan Toh–12 ปี–สิงคโปร์

นัก เรียนชั้นประถมจากสิงคโปร์คนนี้ ฉายแววฉลาดมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงมักเบื่อหน่ายในชั่วโมงเรียนและมองหาสิ่งที่ท้าทายกว่าเสมอ จนที่สุดกระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์ ต้องยอมอนุมัติให้เด็กชายวัยประถมคนนี้ ศึกษาหลักสูตรพิเศษที่สูงกว่าระดับอายุจริง โดยขณะนี้เขาได้ติวเตอร์พิเศษจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนมาเป็นครูพี่เลี้ยงให้

ปัจจุบัน Dylan กำลังถูกฝึกให้มีความเชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์ คณิตศาสตร์ รวมทั้งเทเบิลเทนนิส โดยได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก ว่ามีทักษะขั้นเทพในการนำเสนอไอเดีย
3.Tadewos Abiye Getachew–17 ปี–เอธิโอเปีย

ล่า สุด Getachew และทีมงานของเขา เพิ่งชนะเลิศได้รับรางวัลจากการประกวดผลงานทางวิทยาศาสตร์ในเอธิโอเปีย จากการพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งช่วยให้เด็กเอธิโอเปียในพื้นที่ห่างไกลได้เรียนรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ง่ายขึ้น ด้วยภาษาท้องถิ่น

Getachew ยังพิสูจน์อัจฉริยภาพด้วยคะแนนสอบวัดความสามารถระดับชาติที่ 99% และยังสอบได้คะแนนที่ 1 ในสาขาคณิตศาสตร์ระดับประเทศด้วย ปัจจุบันเขามุ่งหวังว่าจะศึกษาต่อในด้านคอมพิวเตอร์และคณิตศาสตร์
4.  Inderjit Kaur–16 ปี–มาเลเซีย

เด็ก หญิงชาวมาเลเซียคนนี้ เป็นผู้ประดิษฐ์ “หุ่นยนต์พี่เลี้ยง” หรือ “แนนนี่ โรบอท” ซึ่งใช้ช่วยในการดูแลเด็ก สามารถจับเสียงร้องและอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นได้ โดยหากมีเหตุการณ์ผิดปกติ หุ่นยนต์จะติดต่อหรือส่งสัญญาณถึงพ่อแม่เด็กในทันที

ก่อนหน้านี้ Inderjit Kaur ได้เคยนำทีมนักพัฒนาหุ่นยนต์เข้าแข่งขันการประกวดและคว้ารางวัลมานับไม่ถ้วน รวมทั้งการคว้าเหรียญทองจากการประกวดหุ่นยนต์นานาชาติในปีที่แล้วด้วย

ปัจจุบัน Inderjit Kaur กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ด้านคอมพิวเตอร์สมองกล และยังทำการศึกษา ค้นคว้าในเรื่องการพัฒนาหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์อย่างต่อเนื่อง
5. Joey Hudy–16 ปี–สหรัฐอเมริกา

ด้วย อายุแค่ 16 ปี Joey Hudy เคยเข้าพบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามาแล้ว และได้รับเหรียญชนะเลิศการแข่งขันความสามารถด้านวิศวกรรมมานับครั้งไม่ถ้วน ล่าสุดเป็นรางวัลจากการประดิษฐ์เซลล์ไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์จากการประกวดที่ซัน วัลเล่ย์

สิ่งที่เขาปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง คือการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือที่จะช่วยและเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กคนอื่นๆ เรียนรู้ศาสตร์วิชาวิศวกรรมได้อย่างมีความสุข สนุกกับการเรียน นอกเหนือจากการเริ่มทำธุรกิจเล็กๆ ขายสิ่งประดิษฐ์ของเขาเอง

เป้าหมายชีวิตของ Joey Hudy คือการได้เป็นวิศวกรไฟฟ้าและทำงานในบริษัท Maker Media Inc
6. Nur Muhammad Shafiullah–15 ปี–บังกลาเทศ

Nur Muhammad Shafiullah เป็นเด็กบังกลาเทศที่อายุน้อยที่สุด ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกระดับนานาชาติ หลังสร้างสถิติกวาดรางวัลอัจฉริยภาพด้านคณิต– ศาสตร์จากหลากหลายสถาบันมาครอง
เมื่อปีที่แล้ว เขาได้เหรียญทองแดงจากการแข่งขันในอาร์เจนตินา และทำคะแนนสูงสุดติดต่อกัน 3 สมัยในการแข่งขันระดับประเทศ

ปัจจุบัน Nur Muhammad Shafiullah ทำงานให้กับแคมป์พัฒนาทักษะด้านคณิตศาสตร์ในบังกลาเทศ เป็นผู้ดำเนินการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกแห่งชาติ เมื่อจบชั้นมัธยมในปีหน้า เขามีเป้าหมายจะเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ ด้านคอมพิวเตอร์หรือชีววิทยา
7.Kensen Shi–17 ปี–สหรัฐอเมริกา

เด็กชายวัย 17 ปีคนนี้ เป็นหนึ่งในผู้เขียนงานวิจัยเกี่ยวกับการวางแผนการเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาการด้านหุ่นยนต์

เขา ยังได้รับรางวัลชนะเลิศผลงานเดี่ยว จากการประกวดงานด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่มีบริษัทซีเมนส์เป็นเจ้าภาพด้วย แถมยังถูกจัดอยู่ในอันดับ 6 จากการประกวดของบริษัทอินเทล ซึ่งสนับสนุนเยาวชนนักคิดจากทั่วโลก

นอกจากความสามารถด้านวิชาการ แล้ว เขายังเชี่ยวชาญด้านเปียโน และเป็นมือเล่นระดับรางวัล คว้าเหรียญทอง ใบประกาศนียบัตรมาได้หลายเวทีแล้ว

ปัจจุบันเขาอยู่ในทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยเท็กซัส และมีแผนเข้าศึกษาวิชาคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
8. Raghav Sood –15 ปี–อินเดีย

เด็ก ชายอินเดียนคนนี้ เป็นเจ้าของผู้คิดค้นแอพพลิเคชั่นบนมือถือหลากหลาย ทั้งที่ทำงานบนระบบแอนดรอยด์และแบล็กเบอร์รี่ เขาเรียนรู้วิธีการเขียนภาษา HTML, CSS และ Javascript ด้วยตัวเองตั้งแต่อายุแค่ 9 ขวบ ก่อนหันมาพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนแพลทฟอร์มโทรศัพท์มือถือเต็มตัว

ปัจจุบัน Raghav Sood เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท Appaholics LLC รวมทั้งยังเขียนหนังสือเล่มแรกวางจำหน่ายใช้ชื่อว่า “Pro Android Augmented Reality” นอกเหนือจากการเป็นนักเรียนเกรด 10 ซึ่งมีความสนใจด้านฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ หุ่นยนต์ และการถ่ายภาพ

ล่าสุดเขามีแผนเข้าร่วมงานประชุม นักพัฒนาประจำปีของกูเกิล ตามที่ได้รับเชิญมา และมีเป้าหมายที่จะทำงานเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ซึ่งคือการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ ให้มีพฤติกรรมเหมือนมนุษย์
9.Lawrence Sun–16 ปี–สหรัฐอเมริกา

Lawrence กำลังจะเข้าเป็นนักศึกษา MIT ในปีนี้ มีแผนจะเลือกเอกวิชาคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ฟิสิกส์ และมีเป้าหมายว่าหลังเรียนจบ จะขอทำงานด้านการวิจัย หรือไม่ก็การพัฒนาเทคโนโลยี

ก่อนหน้านี้เขาเป็น 1 ในนักเรียน 20 คนที่ได้รับเชิญเข้าทีมแชมป์ฟิสิกส์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เคยเขียนงานวิจัยด้านการใช้โปรแกรมหุ่นยนต์สนับสนุนงานด้านกฎหมายมาแล้ว

และยังเคยเป็นกัปตันทีม คว้าชัยการแข่งขันคณิตศาสตร์ ออนไลน์ ฤดูหนาว เอาชนะทีมที่เข้าแข่งขัน 119 ทีมได้สำเร็จ
10. Farrell Wu–12 ปี–ฟิลิปปินส์

Farrell Wu สามารถบวกเลขได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ พอครบ 3 ขวบ เขาก็เริ่มต้นเล่นหุ้น เมื่อครั้งยังเรียนอนุบาล Farrell Wu ใช้เวลาขณะนั่งรอพ่อแม่มารับกลับบ้าน ด้วยการอ่านพจนานุกรม สะสมความรู้

ปีที่แล้ว เขาเพิ่งคว้ารางวัลที่ 3 จากการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกในฟิลิปปินส์ สร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วประเทศ เพราะยังเด็กมาก

ทำให้ Brilliant. org องค์กรที่ให้การสนับสนุนความเป็นอัจฉริยะ เสนอให้ส่ง Farrell Wu ไปเรียนตัวต่อตัวกับศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกน เพื่อพัฒนาศักยภาพในตัวให้เต็มที่

และจากการวัดระดับความสามารถล่า สุด Farrell Wu มีความรู้ด้านคณิตศาสตร์จบระดับปริญญาตรีแล้ว เขามีแผนเรียนต่อไปในสหรัฐอเมริกา และอยากทำงานสถาบันการเงินวาณิชธนกิจ


ที่มา  ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น